วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

บทที่8 Readings from Literature


There was once a young Shepherd Boy who tended his sheep at the foot of a mountain near a dark forest.
It was rather lonely for him all day, so he thought upon a plan by which he could get a little company and some excitement.
He rushed down towards the village calling out "Wolf, Wolf," and the villagers came out to meet him, and some of them stopped with him for a considerable time.
This pleased the boy so much that a few days afterwards he tried the same trick, and again the villagers came to his help.
But shortly after this a Wolf actually did come out from the forest, and began to worry the sheep, and the boy of course cried out "Wolf, Wolf," still louder than before.
But this time the villagers, who had been fooled twice before, thought the boy was again deceiving them, and nobody stirred to come to his help.
So the Wolf made a good meal off the boy's flock, and when the boy complained, the wise man of the village said:
"A liar will not be believed, even when he speaks the truth.อ่านเพิ่มเติม

บทที่7 Amazing People

"Hayat Sindi is a leading biotechnologist and a champion of science and technology in the Middle East. At a young age, inspired by great scientists and thinkers, Hayat convinced her family to allow her to travel alone to England to pursue her higher education, a rare permission for a young Saudi woman. She went on to earn a degree in pharmacology with honors from King’s College London in 1995 and five years later became the first woman from the Gulf to obtain a PhD in biotechnology from Cambridge. Driven by her desire to more closely link science and social impact she co-founded a non-profit organization with a team at Harvard called Diagnostics For All which creates innovative, inexpensive, point-of-care diagnostic devices for people in impoverished regions. These devices require no power, water or trained doctors and have the ability to provide potentially life-saving medical results in minutes. She has invented a machine combining the effects of light and ultra-sound for use in biotechnology. Along with her scientific activities, she participated in numerous events aimed at raising the awareness of science amongst women, particularly in Saudi Arabia and the Muslim World. She is also interested in the problem of brain drain.Further, at the heart of Sindi’s innovations was a passion to develop an entrepreneurial ecosystem in the Middle East that would transcend existing gaps between education and opportunity. In 2011 she launched i2, the Institute for imagination and Ingenuity, to encourage innovation among young people specifically male and female scientists, technologists and engineers. Through fellowships, trainings and mentorships, i2 seeks to empower and inspire the next generation of innovators so that they may realize their dreams and ultimately contribute to Saudi Arabia’s growing economy. In 2013 Sindi was one of the first 30 women to be appointed to the Saudi Arabia’s highest consultative body, the Shura Council, and is one of 25 global experts selected by United Nations (UN) Secretary General Ban Ki Moon to be a member of the newly constituted UN Scientific Advisory Board which will provide advice to the UN’s leadership on science, technology and innovation for sustainable development. Sindi is also a Goodwill Ambassador for Sciences at UNESCO. In 2012, she was chosen by National Geographic as Explorer. Also she was named one of Newsweek's "150 Women Who Shake the World". Hayat was named by Forbes number 2 the most powerful Arab women in kingdom of Saudi Arabia. Sept 2014 Hayat Sindi received Clinton Global Citizen Awards "leadership in Civil Society" for her work to encourage innovation and entrepreneurship among young people in the Middle East. 2015 Sindi was invited by UN Environment programme to be an Honorary Advisor for the Eye on Earth Summit. She was selected among the think tank of 50 scholars by Robert boch academy in Berlin. She was selected for 2014 and 2015 by educational institution in cooperation with national geographic to portray her life story and present it in five courses for all the world to stimulate children to science. Early last year 2016 she was appointed by the UN secretary Ban Ki-moon in the Ten Members group to support the technological facilitation mechanism (TFM) for Sustainable Development Goals. Recently, Dr Sindi was asked by Prime Minister of Malaysia to join his Science and Innovation advisory council to support the country vision 2020"อ่านเพิ่มเติม


บทที่6 lnventors and Their lnventions


การใช้ความเย็น (Refrigeration and Freezing)
การใช้ความเย็นในการแปรรูปและการถนอมอาหารมีความสำคัญต่อการผลิตอาหารทั้งในระดับครัวเรือนและในระดับอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก
1.1 พัฒนาการของการใช้ความเย็นในการถนอมและการแปรรูปอาหาร
การใช้ความเย็นในการถนอมรักษาอาหารได้มีวิวัฒนาการมาแต่โบราณจากประสบการณ์ และการสังเกตของผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตหนาวเย็นของโลก ดังเช่นการแช่เย็นไวน์ด้วยหิมะผสมเกลือโพเเทสเซียมไนเตรทในสมัยโรมัน ในปี ค.ศ. 1842 เอช เบนจามิน (H. Benjamin) ได้จดลิขสิทธิ์สำหรับการแช่แข็งอาหารโดยการจุ่มลงในตัวทำความเย็นที่อังกฤษ หลังจากนั้นได้มีการพัฒนากระบวนการแช่เย็นอาหารต่าง ๆ เรื่อยมา จนถึงปี ค.ศ. 1880 อุตสาหกรรมแช่แข็งผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก และปลาในสหรัฐอเมริกากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ผู้ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมแช่เย็นในยุคแรก ๆ คือ แคลเรนซ์ เบิร์ดเซย์ (Clarence Birdseye) ซึ่งทำการวิจัยค้นคว้า ออกแบบเครื่องแช่แข็ง ก่อตั้งบริษัทอุตสาหกรรมแช่แข็งที่เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วไป และเป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของการคัดเลือก การเตรียมการ การเก็บรักษา การขนย้ายและจัดจำหน่ายที่มีต่อคุณภาพของอาหารแช่แข็ง
วงการอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งได้มีการพัฒนาอย่างมีระบบ มีขั้นตอน ประกอบกับความก้าวหน้าในด้านวิศวกรรมเครื่องเย็นและแช่แข็ง ทำให้มีการออกแบบสร้างเครื่องแช่แข็งที่ทันสมัยขึ้น เช่น ในช่วงปี ค.ศ. 1960-1962 มีการพัฒนาเครื่องแช่แข็งแบบลอยตัวในลมเย็น (Fluidized-bed Freezer) เครื่องแช่แข็งแบบไอ คิว เอฟ (Individually Quick Freezing) และ เครื่องแช่แข็งแบบแช่ในไนโตรเจนเหลว เป็นต้น จากนั้นอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งก็ได้มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แม้แต่ในประเทศไทยก็มีการส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพวกไก่และผลิตภัณฑ์ประมงแช่แข็งปีละหลายหมื่นล้านบาท

1.2 ความสำคัญของการถนอมและแปรรูปอาหารด้วยความเย็น
การนำความเย็นมาเก็บถนอมอาหาร ทำให้มีการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบทางการเกษตรได้กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยสามารถเก็บวัตถุดิบสำหรับการแปรรูปของโรงงานได้นานขึ้น รวมทั้งทำให้เกิดผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปแช่เย็นแช่แข็งหลากหลายชนิด ก่อให้เกิดอุตสาหกรรมต่อเนื่องมากมาย การใช้ความเย็นถนอมอาหารมีความสำคัญดังนี้
ระดับครัวเรือน ทำให้เก็บรักษาเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์ และอาหารอื่น ๆ ได้นานขึ้น
ระดับอุตสาหกรรม ก่อให้เกิดการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากผลิตผลเกษตรได้มากขึ้น โดย
( 1 ) ช่วยรักษาคุณภาพของวัตถุดิบและชะลอการเสื่อมเสียระหว่างรอการผลิต และการเก็บวัตถุดิบไว้ผลิตได้นานขึ้น รวมทั้งช่วยปรับปรุงคุณภาพวัตถุดิบ
( 2 ) ช่วยให้เกิดผลิตภัณฑ์พร้อมปรุงหรือพร้อมบริโภคมากมาย เช่น ซาละเปา เนื้อและปลาบดทอดแช่แข็ง ชุดอาหารซึ่งประกอบด้วยส่วนผสมของผัก เนื้อ และเครื่องปรุงต่าง ๆ เป็นต้น

อาหารต่างชนิดกันจะมีช่วงอุณหภูมิที่ใช้ในการถนอมต่างกัน โดยทั่วไปการควบคุมอุณหภูมิในการแช่เย็นอาหารจะตั้งไว้ที่เหนือจุดเยือกแข็งเล็กน้อย ส่วนอาหารแช่แข็งจะควบคุมอุณหภูมิไว้ที่ประมาณ - 18 องศาเซลเซียล ส่วนอุณหภูมิของขั้นตอนทำความเย็นที่ใช้ในกระบวนการผลิตจะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่า เพื่อให้อัตราการแช่แข็งเร็วขึ้น ซึ่งอุณหภูมิในห้องแช่แข็งจะควบคุมไว้ที่ - 40 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่า ซึ่งขึ้นอยู่กับสารทำความเย็นที่ใช้และประสิทธิภาพของเครื่องทำความเย็นนั้น ปกติแล้วอุณหภูมิ 4-5 องศาเซลเซียสหรืออุณหภูมิในตู้เย็นธรรมดาหรือห้องเย็น จุลินทรีย์ทั่วไปที่มีในอาหารไม่เจริญเติบโต แต่จะมีจุลินทรีย์ที่ทนความเย็น (Psychophilic organism) เจริญได้ แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า -18 องศาเซลเซียส จะไม่มีจุลินทรีย์ใดที่เจริญไดอ่านเพิ่มเติม


บทที่5 Food

สารที่เป็นองค์ประกอบในอาหาร เรียกว่า สารอาหาร (nutrient) เป็นสารที่ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิต จำแนกตามองค์ประกอบทางเคมีเป็น 6 ประเภท คือ คาร์โบไฮเดรต  โปรตีน ลิพิด วิตามิน  แร่ธาตุ และน้ำ
คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) เป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย ส่วนใหญ่ของคาร์โบไฮเดรตที่มนุษย์ได้รับมาจากอาหารจำพวกน้ำตาลและแป้ง ซึ่งมีมากในธัญพืช ถั่ว และผักผลไม้ คาร์โบไฮเดรตประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจนและออกซิเจน  จับตัวกันเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว  น้ำตาลโมเลกุลคู่ และคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ การตรวจสอบน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยวใช้สารละลายเบเนดิกต์ส่วนการตรวจสอบคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่พวกแป้งใช้สารละลายไอโอดีน
โปรตีน (protein) เป็นส่วนประกอบสำคัญของอวัยวะและเซลล์ทุกเซลล์ ช่วยสร้างเสริมการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเซลล์ และเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน โปรตีนมีบทบาทสำคัญโดยเป็นเอนไซม์  ฮอร์โมน แอนติบอดี  อาหารที่พบโปรตีนมากได้แก่ เนื้อสัตว์  ไข่ นมและถั่ว โปรตีนประกอบด้วยธาตุคาร์บอน ไฮโดรเจน  ออกซิเจน และไนโตรเจน เป็นธาตุหลักจับกันเป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของโปรตีน กรดอะมิโนหลายโมเลกุล จับกันเป็นโปรตีนที่มีโมเลกุลใหญ่ขึ้น
ลิพิด (lipid) เป็นสารอาหารที่มีสมบัติไม่รวมตัวกับน้ำ ให้พลังงานสูง ช่วยในการดูดซึมวิตามินบางชนิด ในร่างกายพบใต้ผิวหนัง และรอบอวัยวะภายในต่างๆ ลิพิดมีหลายประเภท เช่น ไขมัน (fat) น้ำมัน (oil) คอเลสเทอรอล (cholesterol) เป็นต้น ลิพิดในอาหารมักเป็นสารประกอบประเภทเอสเตอร์ เช่น ไตรกลีเซอไรด์  (triglyceride) ประกอบด้วยกลีเซอรอลและกรดไขมัน กรดไขมันประกอบด้วยธาตุคาร์บอนและไฮโดรเจน
วิตามิน (vitamin) เป็นสารอินทรีย์ที่มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบต่างๆ ร่ายกายต้องการปริมาณไม่มาก แต่เมื่อขาดวิตามิน จะส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติเนื่องจากความบกพร่องของกระบวนการเคมีในร่างกาย

แร่ธาตุ (mineral) เป็นสารอนินทรีย์ที่ร่างกายจำเป็นต้องมีอยู่ในระดับที่เหมาะสมจึงจะสามารถทำงานได้ แร่ธาตุยังเป็นส่วนประกอบของสารหลายชนิดที่มีความสำคัญต่อการทำหน้าที่ของเซลล์และอวัยวะ  แร่ธาตุแต่ละชนิดมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายแตกต่างกันและมีอยู่ในแหล่งอาหารต่างชนิดกัน 
น้ำ (water) เป็นสารอาหารที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกาย ช่วยในการนำของเสียออกจากร่างกายและช่วยในการควบคุมอุณหภูมิ  ร่างกายได้รับน้ำโดยการดื่มน้ำและจากอาหาร
ในอาหารแต่ละชนิดอาจมีสารอาหารองค์ประกอบหลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ข้าว มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบหลัก แต่ก็มีทั้งโปรตีน ลิพิด วิตามิน แร่ธาตุ และน้ำอยู่ด้วยในปริมาณเล็กน้อย ทั้งนี้อาหารต่างชนิดกันจะมีส่วนประกอบของสารอาหารต่างกัน ทั้งชนิดและปริมาณtอ่านเพิ่มเติม

บทที่4 Customs

What to Name the Baby
A bout one billion people live in lndia. Most  of  these people belong to the Hindu religion, which is also a way of life . ln the Hindu religion, there are  special ceremonies for important times in a person's life. There are 16 ceremonies in all. For each ceremony there is a special fire, and  priests say prayers and read from a special book. One of these ceremonies is choosing a name for a baby.อ่านเพิ่มเติม

บทที่3 Ways to Health

Give your life a boost today. Improve your heart health.
This is another way of giving your body a daily dose of love. This also allows you toenjoy well-being both inside and out.
Our day-to-day life includes countless small habits. Many times, these small habits hurt our heart.
Sitting too much, the inability to manage stress well, and having poor eating habits all affect our most important organ. This happens almost without us noticing it.
The best moment to take care of your heart health is right now. It doesn’t matter if you’re 15 or 60 years oldYou don’t have to wait for your doctor to tell you that you have high cholesterol or blood pressure to start making little changes.
Investing in the present means feeling great in the future. We suggest that starting today, you put these easy strategies in practice to improve your heart health.อ่านเพิ่มเติม

บทที่2 Places


Two giant hands support one of Venice's most iconic buildings that risks sinking due to a changing climate. It's the latest work by artist Lorenzo Quinn.
Two giant hands support the façade of Palazzo Morosini Sagredo (also known as Ca’ Sagredo) in Venice, Italy. This is Support, a temporary artwork by artistLorenzo Quinn that was inaugurated on 13 May and will remain there until 26 November.
The two giant white hands that rise from the waters of the Grand Canal ideally aim to protect and support Ca’ Sagredo. At the same time, however, they could destroy it and let the city sink at any moment, because “the hand holds so much power – the power to love, to hate, to create, to destroy,” in Quinn’s words.อ่านเพิ่มเติม

บทที่1 Special Days


ชาวฮินดูในอินเดียจะมีเทศกาลสาดสี พวกเขาจะทำพิธีเฉลิมฉลองในเนื่องจากพระจันทร์เติมดวง
เริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์และเดือนมีนาคมจะอยู่ในช่วงใบไม้พลิ เป็นการให้คนรู้ว่า สิ่งดีย่อมดีกว่า
สิ่งที่ไม่ดีในสมัยก่อนจะเฉลิมฉลอง 5 วัน ปัจจุนบันนี้จะฉลองแค่2-3 วัน มันจะเป็นเวลากี่ผ่อนคลอยและมีความสนุกสนาน ในชั่วโมงที่กล่าวมาทุกเพศ ทุกวัย จะได้ดีมีความสนุกสนานได้ทุกเวลาอ่านเพิ่มเติม

บทที่8 Readings from Literature

There was once a young Shepherd Boy who tended his sheep at the foot of a mountain near a  dark forest . It was rather lonely for him al...